Skip to content Skip to footer

SERVICE

NIST Cybersecurity Framework

NIST Cybersecurity Framework : บริการที่ปรึกษาด้านการบริหารความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ตามกรอบมาตรฐาน NIST CSF

ABOUT SERVICE

วางโครงสร้าง Cybersecurity ให้สอดคล้องความเสี่ยงและธุรกิจ

ACIS ช่วยประเมิน Current / Target Profile วิเคราะห์ช่องว่าง และจัดทำ Roadmap ด้าน Cybersecurity ที่ชัดเจน ครอบคลุมการป้องกัน ตรวจจับ รับมือ และฟื้นฟู เพื่อให้องค์กรรับมือภัยไซเบอร์ได้อย่างเป็นระบบ

บริการให้คำปรึกษา NIST Cybersecurity Framework (NIST CSF) — ACIS Professional Center

บริการให้คำปรึกษา NIST Cybersecurity Framework (NIST CSF) ของ ACIS Professional Center ช่วยให้องค์กรในประเทศไทยยกระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างเป็นระบบ โดยใช้กรอบมาตรฐานสากลจาก NIST ที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง ครอบคลุมตั้งแต่การประเมินความเสี่ยง (Cyber Risk) การจัดทำโปรไฟล์ปัจจุบัน/เป้าหมาย (Current/Target Profile) ไปจนถึงการวาง Roadmap เพื่อพัฒนา Governance, Process และ Controls ให้สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง

ให้บริการได้ทั้งแบบ Onsite ในกรุงเทพฯ (Bangkok) และปริมณฑล หรือ Remote/Hybrid ทั่วประเทศไทย เหมาะกับองค์กรทุกขนาดที่ต้องการกรอบการทำงานเพื่อจัดการความเสี่ยงไซเบอร์ให้ วัดผลได้ และ ตรวจสอบได้

ACIS ช่วย “แปลง Framework ให้เป็นแผนงานจริง” พร้อม Evidence และตัวชี้วัด (Metrics) เพื่อให้ติดตามความก้าวหน้าได้ ไม่ใช่แค่รายงานสวย แต่ใช้ขับเคลื่อนงาน Cybersecurity ในชีวิตจริงขององค์กร
  • Thailand (Onsite/Remote/Hybrid)
  • Bangkok / ปริมณฑล / ต่างจังหวัด
  • Current Profile + Target Profile
  • Cybersecurity Roadmap + Controls

เหมาะกับใคร

  • องค์กรที่ต้องการ “กรอบมาตรฐาน” เพื่อจัดการ Cybersecurity แบบครบวงจร: Enterprise / SME / หน่วยงานภาครัฐ
  • ธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีข้อมูลสำคัญ: Finance, Insurance, Healthcare, Telecom, E-commerce, IT/Cloud
  • ทีม CISO / IT Security / IT Operation / Risk / Compliance / Audit ที่ต้องการ Roadmap และตัวชี้วัดความก้าวหน้า
  • องค์กรที่ต้องการต่อยอด/เชื่อมกับมาตรฐานอื่น เช่น ISO/IEC 27001, ISO 22301, COBIT, PDPA หรือข้อกำกับในประเทศ

NIST CSF ช่วยองค์กรได้อย่างไร

NIST CSF ช่วยจัดโครงสร้างงาน Cybersecurity ให้ “เห็นภาพรวม” และ “จัดลำดับความสำคัญ” ได้ โดยครอบคลุมวงจรสำคัญ 5 ฟังก์ชัน เพื่อให้การป้องกัน ตรวจจับ รับมือ และฟื้นฟูมีทิศทางชัดเจน:

  • Identify: รู้จักสินทรัพย์/ความเสี่ยง/บริบทองค์กร
  • Protect: สร้างมาตรการป้องกันและควบคุมที่เหมาะสม
  • Detect: ตรวจจับเหตุการณ์และความผิดปกติได้เร็ว
  • Respond: รับมือเหตุการณ์อย่างเป็นระบบ ลดผลกระทบ
  • Recover: ฟื้นฟูระบบ/บริการให้กลับมาได้เร็ว และเรียนรู้เพื่อป้องกันซ้ำ
ผลลัพธ์ที่จับต้องได้: ได้ทั้ง Current Profile, Target Profile และ Roadmap ที่มี Owner/Timeline/Dependencies พร้อม Checklist ของ Evidence ที่ต้องมีเพื่อรองรับการตรวจสอบ

ขอบเขตบริการ NIST CSF ของ ACIS (Service Scope)

1) NIST CSF Assessment (Current Profile)

  • ประเมินสภาพปัจจุบันเทียบกับหมวดหมู่/หัวข้อของ NIST CSF
  • ทำ Cybersecurity Maturity / Gap แบบเข้าใจง่าย พร้อมสรุปความเสี่ยงและผลกระทบทางธุรกิจ
  • ตรวจทานเอกสาร กระบวนการ ระบบ และหลักฐาน (Evidence)

2) Target Profile & Risk Prioritization

  • กำหนด Target Profile ตามบริบทและความเสี่ยงขององค์กร (ไม่ทำแบบ “one-size-fits-all”)
  • จัดลำดับความสำคัญตาม Risk-based approach (Critical / High / Medium / Low)
  • ระบุ Quick wins ที่ทำได้เร็วและเห็นผลจริง

3) Cybersecurity Roadmap & Control Improvement Plan

  • ทำ Roadmap 3–6–12 เดือน (หรือมากกว่า) พร้อม Owner/Timeline/Dependencies
  • แผนพัฒนา controls ที่เชื่อมกับการปฏิบัติงาน เช่น
    • Asset & configuration management
    • Identity & access management (เช่น MFA, privileged access)
    • Logging, monitoring, incident response
    • Vulnerability & patch management
    • Backup/DR และการทดสอบความพร้อม

4) Policy / Procedure / Playbook (เอกสาร + ใช้งานจริง)

  • จัดทำ/ปรับปรุงเอกสารด้าน Cybersecurity เช่น
  • Information Security Policy / Access Control Policy
  • Incident Response Plan + Playbook
  • Risk Management Procedure
  • Third-party / Supplier Security Procedure
  • Secure Change & Configuration Management

5) Incident Response & Tabletop Exercise

  • ออกแบบสถานการณ์จำลองและซ้อมรับมือ (Tabletop)
  • ปรับปรุงการสื่อสาร การตัดสินใจ และการเก็บหลักฐานหลังเหตุการณ์
  • สรุปบทเรียนและแผนแก้ไข (Lessons learned → Action plan)

6) Integration กับมาตรฐาน/ข้อกำกับอื่น (ถ้ามี)

  • เชื่อม NIST CSF ให้ทำงานร่วมกับ ISO/IEC 27001, COBIT, ISO 22301, PDPA
  • ช่วยจัด Mapping เพื่อให้ “ทำครั้งเดียว ได้หลายมาตรฐาน” ลดงานซ้ำซ้อน

วิธีทำงานของ ACIS Professional Center

Step รายละเอียด
1 Kickoff & Scope: กำหนดระบบ/หน่วยงาน/บริการที่อยู่ในขอบเขต
2 Discovery: สัมภาษณ์ + ตรวจเอกสาร + ตรวจหลักฐาน + เก็บข้อมูลระบบ
3 Assess & Gap: ทำ Current Profile + maturity/gap + risk prioritization
4 Design: วาง Target Profile และออกแบบ controls ที่ต้องยกระดับ
5 Roadmap & Handover: ส่งมอบแผนงานและแนวทางปฏิบัติ พร้อม coaching ทีม

จุดเด่นของ ACIS (Why ACIS)

  • เน้น Risk-based และเชื่อมกับเป้าหมายธุรกิจ ไม่ทำให้ Security เป็น “งานเพิ่ม”
  • ครบทั้งเชิงบริหาร (Governance) + เชิงปฏิบัติ (Implementation)
  • ทำงานได้ทั้ง Bangkok / ปริมณฑล / ทั่วประเทศไทย (Onsite/Remote/Hybrid)
  • ต่อยอดสู่มาตรฐานสากล/การตรวจประเมินได้ง่ายขึ้น

FAQ

Q1: NIST CSF ต่างจาก ISO/IEC 27001 อย่างไร?

A: NIST CSF เป็น “กรอบการจัดการ Cybersecurity” ที่ยืดหยุ่น ใช้จัดลำดับงานตามความเสี่ยงได้ดี ส่วน ISO 27001 เป็นมาตรฐานระบบการจัดการ (ISMS) ที่มีข้อกำหนดและการรับรอง (certification) — หลายองค์กรใช้ NIST CSF เพื่อวางโครง แล้วต่อยอด ISO 27001

Q2: ทำ NIST CSF แล้วได้อะไรเป็นรูปธรรม?

A: ได้ Current Profile, Target Profile และ Roadmap ที่ระบุโครงการ/controls ที่ต้องทำ พร้อมความเร่งด่วนและหลักฐานที่ต้องมี ทำให้วัดผลและติดตามความก้าวหน้าได้

Q3: องค์กรขนาดเล็กทำได้ไหม?

A: ได้ ACIS ปรับขอบเขตให้เหมาะกับทรัพยากร โดยโฟกัส Quick wins และ controls ที่ลดความเสี่ยงได้มากที่สุดก่อน

ยกระดับ Cybersecurity ด้วย NIST CSF ในประเทศไทย (Bangkok/ทั่วประเทศ)
หากองค์กรของคุณต้องการเริ่ม NIST CSF Assessment และรับ Roadmap ที่นำไปใช้ได้จริง พร้อมเอกสารและแนวทางสนับสนุนทีมงาน ติดต่อ ACIS Professional Center ได้เลย