ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน ภัยคุกคามทางโทรศัพท์จากผู้หลอกลวง (Scammer) กลายเป็นภัยที่มีความน่ากังวลมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์หรือข้อความหลอกลวง ทั้งหมดนี้สามารถทำให้เราตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางการเงินและข้อมูลส่วนตัวได้อย่างง่ายดาย.
ประเภทของการโจมตีทางโทรศัพท์
1.Phishing Call: การโทรศัพท์ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หรือองค์กรที่น่าเชื่อถือ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน บัญชีธนาคาร หรือหมายเลขบัตรเครดิต.
2.Vishing: การใช้เสียงบันทึกหรือการโทรสดเพื่อหลอกลวงให้เหยื่อให้ข้อมูลที่เป็นความลับ.
3.Smishing: การส่งข้อความสั้น (SMS) ที่มีลิงก์หรือข้อมูลที่หลอกลวงให้ผู้รับเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว.
วิธีการทำงานของ Scammer.
1.การแอบอ้างเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ: Scammer มักจะแอบอ้างเป็นตัวแทนจากธนาคาร บริษัทประกันภัย หรือหน่วยงานรัฐบาล เพื่อให้ผู้รับโทรศัพท์เชื่อถือ
2.การสร้างสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความกังวล: เช่น แจ้งว่ามีปัญหากับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต และต้องการข้อมูลด่วนเพื่อแก้ไข.
3.การใช้เทคนิค Social Engineering: ใช้การหลอกลวงที่สร้างสรรค์ เพื่อให้เหยื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว.
วิธีป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามทางโทรศัพท์.
1.ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวทางโทรศัพท์: หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หรือรหัสผ่านทางโทรศัพท์.
2.ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ: หากมีการโทรศัพท์หรือข้อความที่น่าสงสัย ควรตรวจสอบกับหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องโดยตรง
3.ใช้การป้องกันเพิ่มเติม: เช่น การตั้งค่าความปลอดภัยบนโทรศัพท์ การใช้แอปพลิเคชันที่ช่วยกรองการโทรหลอกลวง
4.รายงานการหลอกลวง: หากได้รับโทรศัพท์หรือข้อความที่น่าสงสัย ควรรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.
บทสรุปภัยคุกคามทางโทรศัพท์จาก…
Google Search เป็นเครื่องมือค้นหาที่ได้รับใความนิยมสูงสุดในโลก เป็นช่องทางหลักที่ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลต่างๆ รวมถึงซอฟต์แวร์ แต่การค้นหาซอฟต์แวร์บน Google อาจมีความเสี่ยงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น.
ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาซอฟต์แวร์บน Google ได้แก่.
ซอฟต์แวร์ปลอม: ผู้โจมตีอาจสร้างเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบเว็บไซต์ของผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการ เมื่อผู้ใช้ค้นหาซอฟต์แวร์บน Google และคลิกลิงก์ไปยังเว็บไซต์ปลอมเหล่านี้ พวกเขาอาจดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ปลอมซึ่งอาจมีมัลแวร์หรือไวรัสแฝงอยู่.
ผลการค้นหาที่เป็นอันตราย: ผู้โจมตีอาจใช้เทคนิคการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ปลอมหรือเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายปรากฏอยู่ในผลการค้นหาอันดับต้นๆ เมื่อผู้ใช้ค้นหาซอฟต์แวร์บน Google พวกเขาอาจคลิกลิงก์ไปยังเว็บไซต์เหล่านี้และตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์.
การโจมตีแบบ Phishing: ผู้โจมตีอาจส่งอีเมลหรือข้อความปลอมที่แฝงตัวเป็นผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการ ในอีเมลหรือข้อความเหล่านี้อาจมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ปลอมหรือไฟล์แนบที่เป็นอันตราย เมื่อผู้ใช้คลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบเหล่านี้ พวกเขาอาจตกเป็นเหยื่อของการโจมตีแบบ Phishing และถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงิน.วิธีป้องกันตนเองจากภัยคุกคามทางไซเบอร์เมื่อมีความจำเป็นต้องค้นหาซอฟต์แวร์บน Google และเพื่อป้องกันตนเองจากภัยคุกคามทางไซเบอร์เมื่อค้นหาซอฟต์แวร์บน Google ผู้ใช้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้.
ใช้ความระมัดระวังในการคลิกลิงก์: อย่าคลิกลิงก์ในอีเมลหรือข้อความที่น่าสงสัย ให้ตรวจสอบลิงก์อย่างรอบคอบก่อนที่จะคลิก และอย่าคลิกลิงก์ที่ดูไม่น่าเชื่อถือหรือมาจากผู้ส่งที่ไม่รู้จัก.
ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเท่านั้น: อย่าดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือเว็บไซต์ที่ไม่ใช่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์.
ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและมัลแวร์ที่ทันสมัย: ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและมัลแวร์ที่ทันสมัยเพื่อตรวจจับและบล็อกมัลแวร์และไวรัสที่อาจแฝงมากับซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต.
…
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังปฏิวัติทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้วยความสามารถอันทรงพลังของ AI ผู้โจมตีจึงใช้วิธีการที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ และประสบความสำเร็จในการโจมตี ในปี 2024 คาดว่าภัยคุกคามอีเมลที่ใช้ AI จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กร และบุคคลทั่วไปต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือ.
ภัยคุกคามอีเมลที่ใช้ AI คืออะไร. ภัยคุกคามอีเมลที่ใช้ AI คือการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตี ผู้โจมตีใช้ AI เพื่อสร้างอีเมลฟิชชิงที่ดูเหมือนมาจากแหล่งที่ถูกต้อง อีเมลเหล่านี้อาจมีเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนตามข้อมูลเฉพาะเจาะจงของเหยื่อ ทำให้ยากต่อการตรวจจับว่าเป็นการหลอกลวง.นอกจากนี้ AI ยังสามารถใช้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการสื่อสารทางอีเมลของบุคคลหรือองค์กร เพื่อสร้างอีเมลที่กำหนดเป้าหมายอย่างแม่นยำมากขึ้น ซึ่งอาจหลอกล่อให้เหยื่อคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบที่เป็นอันตราย.
ภัยคุกคามอีเมลที่ใช้ AI ที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่:. - การโจมตีแบบ Phishing ขั้นสูง: อีเมลฟิชชิงที่ใช้ AI จะเลียนแบบอีเมลจากแหล่งที่ถูกต้อง เช่น ธนาคาร บริษัท หรือเพื่อนร่วมงาน อีเมลเหล่านี้อาจมีการสะกดคำและไวยากรณ์ที่ถูกต้อง และอาจมีการออกแบบที่ดูน่าเชื่อถือ. - อีเมลสแปมที่กำหนดเป้าหมาย: ผู้โจมตีใช้ AI เพื่อสร้างอีเมลสแปมที่กำหนดเป้าหมายไปยังบุคคลหรือองค์กรเฉพาะ อีเมลเหล่านี้อาจมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจหรือธุรกิจของเหยื่อ.…
การโจมตีทางไซเบอร์ประเภท Phishing เป็นภัยคุกคามที่พบบ่อยที่สุดประเภทหนึ่ง คาดว่าการโจมตีประเภทนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในปี 2024 นี้
การโจมตีแบบ Phishing เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พบบ่อยที่สุดประเภทหนึ่ง ซึ่งคาดว่าในปีนี้การโจมตีประเภทนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ในปี 2024 ภัยคุกคามด้าน Cybersecurity จะยังคงมีความซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้น บริษัทและองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องตระหนักถึงภัยคุกคามเหล่านี้และพร้อมที่จะป้องกัน
ภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยอาชญากรไซเบอร์พัฒนาวิธีการที่ซับซ้อนมากขึ้นในการขโมยข้อมูล รวมถึงกำหนดเป้าหมายบุคคล และธุรกิจ
การสร้าง Security Awareness ให้องค์กรไม่ได้มาจากการให้ความรู้จากการสื่อสารเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริหารจัดการบุคคล เพื่อให้ได้รับข้อมูลอย่างถูกต้องด้วย
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า Email ซึ่งใช้สำหรับการสื่อสารเพื่อรับ ส่ง และบันทึกข้อความผ่านระบบการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ Email System
ปัญหาด้านความปลอดภัยข้อมูลระบบสารสนเทศยังคงเป็น ปัญหาคาใจของผู้บริหารระบบสารสนเทศจากอดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากหลายองค์กรได้ทำการติดตั้งทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์สำหรับป้องกันภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต
ปัญหาภัยอินเทอร์เน็ตของประเทศไทยจากสถิติในสองสามปีที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเพิ่มขึ้นของปัญหาต่าง ๆ เป็นไปอย่างก้าวกระโดดตามอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
ในปัจจุบันหลายคนต่างยอมรับว่าเรากำลังอยู่ในยุคสมัยแห่งโลกอินเทอร์เน็ตอย่างแท้จริง สังคมไซเบอร์กำลังแทรกซึมเข้าสู่วิถีชีวิตของคนทั่วโลกทุกชาติทุกภาษา สังเกตได้จากความนิยมในการใช้ Google Search Engine, Email และ World Wide Web
