การถูกหลอกลวงโดย Scammer กลายเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นในยุคดิจิทัลนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรืออยู่ที่ไหน Scammer สามารถเข้าถึงคุณได้ทุกที่ทุกเวลา วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Scammer ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเตรียมตัวและป้องกันตัวเองจากการถูกหลอกลวง
Phishing Scam Phishing คือการที่ Scammer ส่งอีเมลหรือข้อความปลอมที่ดูเหมือนมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น ธนาคารหรือเว็บไซต์ยอดนิยม โดยมีจุดประสงค์เพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลบัตรเครดิต วิธีป้องกันคือไม่คลิกลิงก์ในอีเมลหรือข้อความที่ไม่น่าเชื่อถือ และตรวจสอบ URL ก่อนทำธุรกรรมออนไลน์เสม
Vishing Scam Vishing คือการใช้โทรศัพท์เพื่อหลอกลวง Scammer จะโทรหาคุณและปลอมตัวเป็นตัวแทนจากบริษัทหรือหน่วยงานราชการ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวหรือเงิน วิธีป้องกันคืออย่าให้ข้อมูลสำคัญทางโทรศัพท์ และโทรกลับหาบริษัทหรือหน่วยงานนั้นๆ เพื่อยืนยันว่ามีการติดต่อจริงหรือไม่
Smishing Scam Smishing คือการใช้ข้อความ SMS เพื่อหลอกลวง เช่น การส่งลิงก์ปลอมที่อ้างว่าเป็นโปรโมชั่นพิเศษหรือการแจ้งเตือนด่วน วิธีป้องกันคือไม่คลิกลิงก์ในข้อความที่ไม่น่าเชื่อถือ และลบข้อความที่ดูมีพิรุธทิ้งทันที
Romance Scam Romance Scam คือการหลอกลวงทางอารมณ์ โดย Scammer จะสร้างโปรไฟล์ปลอมในเว็บไซต์หาคู่หรือโซเชียลมีเดีย และสร้างความสัมพันธ์กับเหยื่อ จากนั้นจะขอเงินหรือของมีค่าต่างๆ…
ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีเข้าใช้ภายในองค์กรมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเห็นภาครัฐ ภาคเอกชน หรือ แม้แต่โรงพยาบาลซึ่งมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นจำนวนมาก ยิ่งเรานำเรื่องพวกนี้มาใช้ ความเสี่ยงก็จะมีผลตามมาด้วย นั้นจึงเป็น
ที่มาที่ว่าสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งขาติ (สกมช.) และ สมาคมเวชสารสนเทศไทย (Thai Medical Informatics Association – TMI) ต้องการยกระดับความปลอดภัยของโรงพยาบาลทุกแห่งในกระทรวงสาธารณสุข โดยให้มีการพัฒนาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ตามมาตรฐานระบบ ISO 27001 หรือ HAIT Plusและพัฒนาบุคลากรให้พร้อมรับมือกรณีการโจมตี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และการดูแลสุขภาพ
การปฏิบัติตามมาตรฐาน HAIT Plus จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้โรงพยาบาลมีความพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ โดย HAIT Plus นั้นครอบคลุมตั้งแต่
1.การจัดตั้งคณะทำงานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กำหนดบทบาทหน้าที่
2.การจัดทำแผนปฏิบัติการ 3 เดือน เพื่อสร้างระบบรักษาความปลอดภัย
3.การวิเคราะห์ผลกระทบทางธุรกิจ (Business Impact Analysis) เพื่อประเมินความเสี่ยง
4.การกำหนดนโยบาย มาตรฐาน และระเบียบปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และประกาศบังคับใช้ทั่วทั้งองค์กร
5.การอบรมให้ความรู้ และประเมินการรับรู้ เข้าใจ และปฏิบัติตามระเบียบความปลอดภัยของบุคลากร
6.การประเมินช่องโหว่…
ในสังคมไทย ความเชื่อ และการมีร่างทรงเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมมายาวนาน ร่างทรงถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถในการสื่อสารกับสิ่งเหนือธรรมชาติหรือเทพเจ้า โดยมีบทบาทสำคัญในพิธีกรรม และการให้คำปรึกษาด้านจิตใจ อย่างไรก็ตาม ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการ
เชื่อมโยงผู้คน การแสวงหาข้อมูลและบริการจากร่างทรงผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ขณะเดียวกัน ก็เปิดโอกาสให้เกิดภัยไซเบอร์ที่สามารถสร้างความเสียหายทั้งทางทรัพย์สิน และจิตใจได้
ภัยไซเบอร์ที่มาพร้อมกับร่างทรงแห่งยุคดิจิทัล
การให้บริการร่างทรงผ่านทางออนไลน์เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีสามารถแฝงตัวเข้ามาหลอกลวงผู้ที่มีความเชื่อได้ ภัยไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับร่างทรงออนไลน์สามารถแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ เช่น
1.การหลอกลวงทางการเงิน: มิจฉาชีพอาจแอบอ้างเป็นร่างทรงหรือหมอดูที่มีชื่อเสียง แล้วเรียกร้องค่าบริการในอัตราที่สูง เมื่อได้รับเงินแล้วกลับหายตัวไป หรือให้บริการที่ไม่ตรงกับคำสัญญา ควรวิจารณญาณในในการตัดสินใจ
2.การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล: ผู้ใช้บริการอาจถูกหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งข้อมูลทางการเงิน ซึ่งมิจฉาชีพสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการก่ออาชญากรรมอื่น ๆ ได้
3.การหลอกลวงทางอารมณ์และจิตใจ: บางครั้งมิจฉาชีพอาจใช้ความเชื่อและความหวังของผู้ใช้บริการในการสร้างเรื่องราวหลอกลวง ทำให้ผู้ใช้บริการเกิดความเสียหายทางจิตใจ
ความเสี่ยงที่สามารถขยายผลกระทบไปยังชีวิตประจำวันได้ตัวเราเองควรระมัดระวัง และใช้วิจารณญาณในในการตัดสินใจ รวมถึงการตรวจสอบแหล่งที่มา และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด เพื่อป้องกันตนเองจากการตกเป็นเหยื่อของภัยไซเบอร์ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตจริง
การโจมตีทางไซเบอร์เป็นปัญหาที่ร้ายแรง และรุนแรงต่อองค์กรทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีด้วยไวรัสคอมพิวเตอร์ที่มีความรุนแรงต่อระบบข้อมูลขององค์กร หรือการโจมตีด้วยการแฮกเกอร์ที่มีจุดมุ่งหมายที่จะขโมยข้อมูลสำคัญขององค์กรเพื่อการเอาชนะหรือการขายข้อมูลให้แก่คู่แข่ง การจัดการกับการโจมตีทางไซเบอร์มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง แต่หลังจากการโจมตีเกิดขึ้นแล้ว ขั้นตอนการกู้คืนข้อมูลก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน
นี่คือแนวทางบางอย่างที่สามารถนำมาใช้ในการกู้คืนข้อมูลหลังจากการโจมตีทางไซเบอร์
1.การสำรองข้อมูลอย่างเช่นวางแผนการสำรองข้อมูลแบบเป็นระบบ การสำรองข้อมูลอย่างเป็นระบบช่วยให้องค์กรสามารถกู้คืนข้อมูลได้ในกรณีที่ข้อมูลหลักหายหรือถูกทำลายไป เช่นการสำรองข้อมูลในระบบคลาวด์ หรือการสำรองข้อมูลในระบบที่ตั้งอยู่ภายใน
2.การใช้เทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง เช่นการใช้ระบบความปลอดภัยที่มีการเข้ารหัสข้อมูลอย่างมีความปลอดภัย และการใช้เทคโนโลยีการตรวจจับการบุกรุก (Intrusion Detection System) เพื่อตรวจจับการโจมตีที่เกิดขึ้นและป้องกันการสูญเสียข้อมูล
3.การใช้เทคโนโลยีการกู้คืนข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นการใช้ซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูลที่สามารถช่วยกู้คืนข้อมูลที่สูญเสียได้ในกรณีฉุกเฉิน
4.การฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การฝึกอบรมเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้พนักงานเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์และมีการปฏิบัติตามนโยบายความปลอดภัยขององค์กร
5.การทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เช่น การเข้าใจกฎหมายความเป็นส่วนตัว (Privacy Law) และกฎหมายความเสี่ยงทางไซเบอร์ (Cyber Risk Law) เพื่อป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมายในการกู้คืนข้อมูล
การกู้คืนข้อมูลหลังจากการโจมตีทางไซเบอร์เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้แนวทางที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถกู้คืนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การเตรียมความพร้อมและการวางแผนก่อนที่จะเกิดการโจมตีจึงมีความสำคัญอย่างมากในการลดความเสี่ยงและความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์ในองค์กรใด การปรับใช้และการพัฒนาแนวทางการกู้คืนข้อมูลเป็นสิ่งที่ควรต้องทำให้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มที่
ใกล้จะหมด Q1 ของปี 2024 จากบทความหลาย ๆ อันใน ACIS Pages จะพูดถึงเทรนด์การเปลี่ยนแปลงด้าน Cybersecurity .
การเปลี่ยนแปลงที่เราทำงาน Cybersecurity ต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยสรุปมีดังนี้.
1. การที่ Generative AI เป็นผู้นำเทรนด์ที่ทำให้ทุกธุรกิจต้องปรับตัว และนำเอา AI เข้ามาพัฒนา ต่อยอดในหลาย ๆ ส่วน แต่อย่าลืมว่าผู้ไม่ประสงค์ดีก็นำเอาเรื่องนี้มาใช้ประโยชน์เช่นกัน ดังนั้นแต่ละองค์กรต้องมีการควบคุม AI เพื่อใช้ในการเตรียมรับมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เช่น นำเอา AI มาใช้ในการ Predictive มากขึ้น หรือเอาใช้ประโยชน์ในด้าน Threat intelligence เป็นต้น.
2. ปัญหาเรื่องการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่มีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากข่าวในตอนนี้มีการออกมาอย่างเป็นประจำทั้งในประเทศไทยเอง หรือ ต่างประเทศ ACIS เองเรามีหน่วยงานที่ Monitor เรื่องพวกนี้อยู่ทั้งที่ข้อมูลหลุดไปที่ส่วน Dark web หรือซื้อขายทั่วไปไปตาม Surface web…
ปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จัก AI หรือ LLM แน่นอน เพราะไม่ว่าจะไปบรรยายที่ไหนก็จะมีคนมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องนี้โดยตลอด ซึ่งเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาก็จะมีในส่วนที่ต้องระมัดระวังมากขึ้นเช่นกัน OWASP หรือ Open Worldwide Application Security Project ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลด้านความมั่นคงปลอดภัยที่น่าเชื่อถือระดับโลก จึงได้เผยแพร่รายงาน 10 ช่องโหว่หลักของระบบ Generative AI และ LLM
1. 𝗣𝗿𝗼𝗺𝗽𝘁 𝗜𝗻𝗷𝗲𝗰𝘁𝗶𝗼𝗻 การที่มีการใช้คำสั่งที่ทำให้ระบบ Generative AI ทำงานผิดปกติ ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง.
2. 𝗜𝗻𝘀𝗲𝗰𝘂𝗿𝗲 𝗼𝘂𝘁𝗽𝘂𝘁 𝗵𝗮𝗻𝗱𝗶𝗻𝗴 ประเภทช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามาถเข้าถึงระบบได้.
3. 𝗧𝗿𝗮𝗶𝗻𝗶𝗻𝗴 𝗱𝗮𝘁𝗮 𝗽𝗼𝗶𝘀𝗼𝗻𝗶𝗻𝗴 ข้อมูลที่ถูกเพื่อใช้ Training ทำให้เกิดช่องโหว่เวลาถูกนำไปใช้.
4. 𝗠𝗼𝗱𝗲𝗹 𝗗𝗲𝗻𝗶𝗮𝗹 𝗼𝗳 𝗦𝗲𝗿𝘃𝗶𝗰𝗲 การใช้คำสั่งทำให้ AI ใช้ทรัพยากรมากเกินกว่าที่รับได้.
5. 𝗦𝘂𝗽𝗽𝗹𝘆 𝗰𝗵𝗮𝗶𝗻 𝘃𝘂𝗹𝗻𝗲𝗿𝗮𝗯𝗶𝗹𝗶𝘁𝘆 การโจมตีส่วนประกอบ…
หลังจากที่ไม่มีการ Update มานานตั้งแต่ปี 2016 ทาง OWASP ได้ออก Top 10 Mobile ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้
𝗠𝟭: 𝗜𝗺𝗽𝗿𝗼𝗽𝗲𝗿 𝗖𝗿𝗲𝗱𝗲𝗻𝘁𝗶𝗮𝗹 𝗨𝘀𝗮𝗴𝗲 เกิดขึ้นจากการจัดการ credentials อย่างไม่เหมาะสม เช่น • การทำ Hardcoded Credentials • การทำ Insecure Credential Transmission ที่มีการส่ง credentials โดยที่ไม่มีการเข้ารหัส
𝗠𝟮: 𝗜𝗻𝗮𝗱𝗲𝗾𝘂𝗮𝘁𝗲 𝗦𝘂𝗽𝗽𝗹𝘆 𝗖𝗵𝗮𝗶𝗻 𝗦𝗲𝗰𝘂𝗿𝗶𝘁𝘆 เกิดจากการใช้ Thid-party components ที่ไม่มีความมั่นคงปลอดภัย อาจจะเป็น API หรือ Plug-in ซึ่งผลกระทบที่เกิดอาจจะมีหลายด้าน เช่น •การเกิด Access Un-Authorization •Data Breach.
𝗠𝟯: 𝗜𝗻𝘀𝗲𝗰𝘂𝗿𝗲…
ตอนนนี้ใครก็พูดถึง AI แต่สิ่งหนึ่งที่เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน มีการ Disrupt อย่างรุนแรง หรือ การออกฏหมาย/ระเบียบใหม่ ๆ ก็จะต้องมีเรื่อง Security เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน.
จึงเป็นที่มาที่หน่วยงานระดับสากลอย่าง ISO ได้ออกมาตรฐาน ISO/IEC 42001:2023 มาตรฐานระบบการจัดการ AI โดยมีการให้คำแนะนำในการนำเรื่องการพิจารณาทางจริยธรรม ความโปร่งใส และการเรียนรู้ต่อเนื่อง .
มาตรฐานนี้กำหนดให้มีข้อกำหนดสำหรับการจัดตั้ง การดำเนินการ การบำรุงรักษา และการปรับปรุงระบบการจัดการปัญญาประดิษฐ์ (AIMS) ภายในองค์กร มาตรฐานนี้ถูกออกแบบมาสำหรับหน่วยงานที่ให้บริการ หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์ หรือ บริการที่ใช้ AI เพื่อรับประกันการพัฒนาและใช้งานระบบ AI อย่างมีความรับผิดชอบ.
มาตรฐานนี้จะช่วยให้องค์กรสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีประโยชน์ภาพรวมดังนี้.
การใช้ระบบ AIMS ที่มีประสิทธิภาพสามารถจัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ AI ได้ทันท่วงที.
ใช้ในการสร้างกรอบการทำงานที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาและใช้งาน AI ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นนวัตกรรมภายในองค์กรได้เป็นอ่างดี.
เป็นการสร้างความแตกต่างในตลาด การได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 42001:2023 นั้นจะช่วยให้องค์กรมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในระบบการศึกษา โรงเรียนกำลังเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ปี 2024 คาดว่าจะเป็นปีที่วิกฤตนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น บทความนี้จะเจาะลึกถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่โรงเรียนอาจเผชิญในปี 2024 และแนะนำวิธีรับมือเพื่อปกป้องข้อมูลและความปลอดภัยของนักเรียน.
ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พบบ่อยที่สุดในโรงเรียน.
- การโจมตีแบบ Phishing: ผู้โจมตีส่งอีเมลหรือข้อความปลอมเพื่อหลอกล่อนักเรียนและเจ้าหน้าที่ให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่าน. - มัลแวร์:- ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายซึ่งติดตั้งโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจขโมยข้อมูล ทำลายไฟล์ หรือแม้แต่ควบคุมคอมพิวเตอร์. - การโจมตีแบบ Ransomware: มัลแวร์ที่เข้ารหัสไฟล์ในคอมพิวเตอร์และเรียกค่าไถ่เพื่อแลกกับการถอดรหัสไฟล์. - การโจมตีแบบ DDoS: ผู้โจมตีส่งคำขอจำนวนมากไปยังเว็บไซต์หรือเครือข่าย ทำให้เว็บไซต์หรือเครือข่ายดังกล่าวล่ม. - การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล: ผู้โจมตีอาจเข้าถึงฐานข้อมูลของโรงเรียนและขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียน เช่น ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลทางการเงิน
ผลกระทบของการโจมตีทางไซเบอร์ในโรงเรียน.
การโจมตีทางไซเบอร์อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโรงเรียน ได้แก่. - การสูญเสียข้อมูลการศึกษาที่มีค่า. - การหยุดชะงักของการเรียนการสอน. - การสูญเสียทางการเงิน. - ความเสียหายต่อชื่อเสียงของโรงเรียน. - ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของนักเรียน.
วิธีรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในโรงเรียน.
โรงเรียนควรดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ได้แก่. -…
อาชีพในด้าน Cybersecurity กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในปี 2024 เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บทความนี้จะแนะนำอาชีพในด้าน Cybersecurity ที่กำลังเป็นที่ต้องการ และแนวทางในการประกอบอาชีพเหล่านี้ผู้ที่สนใจสามารถนำไปศึกษาได้เลยครับ.
อาชีพในด้าน Cybersecurity ที่กำลังเป็นที่ต้องการในปี 2024 ได้แก่.
1. นักวิเคราะห์ความปลอดภัยทางไซเบอร์: นักวิเคราะห์ความปลอดภัยทางไซเบอร์มีหน้าที่วิเคราะห์ภัยคุกคามทางไซเบอร์และพัฒนากลยุทธ์เพื่อป้องกันภัยคุกคามเหล่านั้น คุณสมบัติ ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล.
2. ผู้ตรวจสอบการบุกรุกทางไซเบอร์: ผู้ตรวจสอบการบุกรุกทางไซเบอร์มีหน้าที่ตรวจสอบและตอบสนองต่อการโจมตีทางไซเบอร์ คุณสมบัติต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล.
3. ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์: ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มีหน้าที่วางแผนและดำเนินการระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ คุณสมบัติต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้อย่างน้อยสามปี.
4. นักพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัย:** นักพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัย มีหน้าที่พัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ คุณสมบัติต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ และมีความรู้ด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์.
5. ที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์: ที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและแนะนำด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แก่บริษัทและองค์กรต่างๆ คุณสมบัติต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์.
แนวทางในการประกอบอาชีพในด้าน Cybersecurity เพื่อประกอบอาชีพในด้าน Cybersecurity ผู้สนใจควรดำเนินการดังนี้.
1. ศึกษาต่อในด้าน Cybersecurity: ผู้สนใจควรศึกษาต่อในด้าน Cybersecurity ในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโท เพื่อให้มีความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพในด้านนี้.
2. ฝึกฝนและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง: เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้สนใจควรฝึกฝนและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความรู้และทักษะที่ทันสมัย.…
การโจมตีทางไซเบอร์ประเภท Phishing เป็นภัยคุกคามที่พบบ่อยที่สุดประเภทหนึ่ง คาดว่าการโจมตีประเภทนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในปี 2024 นี้
Generative AI คือ ปัญญาประดิษฐ์รูปแบบหนึ่งที่ใช้สำหรับสร้างเนื้อหาใหม่ๆ ได้อย่างหลากหลายแบบอัตโนมัติ เช่น ใช้สร้างข้อความ รูปภาพ เพลง วิดีโอ เป็นต้น
