ใกล้จะหมด Q1 ของปี 2024 จากบทความหลาย ๆ อันใน ACIS Pages จะพูดถึงเทรนด์การเปลี่ยนแปลงด้าน Cybersecurity .
การเปลี่ยนแปลงที่เราทำงาน Cybersecurity ต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยสรุปมีดังนี้.
1. การที่ Generative AI เป็นผู้นำเทรนด์ที่ทำให้ทุกธุรกิจต้องปรับตัว และนำเอา AI เข้ามาพัฒนา ต่อยอดในหลาย ๆ ส่วน แต่อย่าลืมว่าผู้ไม่ประสงค์ดีก็นำเอาเรื่องนี้มาใช้ประโยชน์เช่นกัน ดังนั้นแต่ละองค์กรต้องมีการควบคุม AI เพื่อใช้ในการเตรียมรับมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เช่น นำเอา AI มาใช้ในการ Predictive มากขึ้น หรือเอาใช้ประโยชน์ในด้าน Threat intelligence เป็นต้น.
2. ปัญหาเรื่องการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่มีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากข่าวในตอนนี้มีการออกมาอย่างเป็นประจำทั้งในประเทศไทยเอง หรือ ต่างประเทศ ACIS เองเรามีหน่วยงานที่ Monitor เรื่องพวกนี้อยู่ทั้งที่ข้อมูลหลุดไปที่ส่วน Dark web หรือซื้อขายทั่วไปไปตาม Surface web…
ปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จัก AI หรือ LLM แน่นอน เพราะไม่ว่าจะไปบรรยายที่ไหนก็จะมีคนมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องนี้โดยตลอด ซึ่งเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาก็จะมีในส่วนที่ต้องระมัดระวังมากขึ้นเช่นกัน OWASP หรือ Open Worldwide Application Security Project ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลด้านความมั่นคงปลอดภัยที่น่าเชื่อถือระดับโลก จึงได้เผยแพร่รายงาน 10 ช่องโหว่หลักของระบบ Generative AI และ LLM
1. 𝗣𝗿𝗼𝗺𝗽𝘁 𝗜𝗻𝗷𝗲𝗰𝘁𝗶𝗼𝗻 การที่มีการใช้คำสั่งที่ทำให้ระบบ Generative AI ทำงานผิดปกติ ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง.
2. 𝗜𝗻𝘀𝗲𝗰𝘂𝗿𝗲 𝗼𝘂𝘁𝗽𝘂𝘁 𝗵𝗮𝗻𝗱𝗶𝗻𝗴 ประเภทช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามาถเข้าถึงระบบได้.
3. 𝗧𝗿𝗮𝗶𝗻𝗶𝗻𝗴 𝗱𝗮𝘁𝗮 𝗽𝗼𝗶𝘀𝗼𝗻𝗶𝗻𝗴 ข้อมูลที่ถูกเพื่อใช้ Training ทำให้เกิดช่องโหว่เวลาถูกนำไปใช้.
4. 𝗠𝗼𝗱𝗲𝗹 𝗗𝗲𝗻𝗶𝗮𝗹 𝗼𝗳 𝗦𝗲𝗿𝘃𝗶𝗰𝗲 การใช้คำสั่งทำให้ AI ใช้ทรัพยากรมากเกินกว่าที่รับได้.
5. 𝗦𝘂𝗽𝗽𝗹𝘆 𝗰𝗵𝗮𝗶𝗻 𝘃𝘂𝗹𝗻𝗲𝗿𝗮𝗯𝗶𝗹𝗶𝘁𝘆 การโจมตีส่วนประกอบ…
Google Search เป็นเครื่องมือค้นหาที่ได้รับใความนิยมสูงสุดในโลก เป็นช่องทางหลักที่ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลต่างๆ รวมถึงซอฟต์แวร์ แต่การค้นหาซอฟต์แวร์บน Google อาจมีความเสี่ยงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น.
ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาซอฟต์แวร์บน Google ได้แก่.
ซอฟต์แวร์ปลอม: ผู้โจมตีอาจสร้างเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบเว็บไซต์ของผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการ เมื่อผู้ใช้ค้นหาซอฟต์แวร์บน Google และคลิกลิงก์ไปยังเว็บไซต์ปลอมเหล่านี้ พวกเขาอาจดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ปลอมซึ่งอาจมีมัลแวร์หรือไวรัสแฝงอยู่.
ผลการค้นหาที่เป็นอันตราย: ผู้โจมตีอาจใช้เทคนิคการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ปลอมหรือเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายปรากฏอยู่ในผลการค้นหาอันดับต้นๆ เมื่อผู้ใช้ค้นหาซอฟต์แวร์บน Google พวกเขาอาจคลิกลิงก์ไปยังเว็บไซต์เหล่านี้และตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์.
การโจมตีแบบ Phishing: ผู้โจมตีอาจส่งอีเมลหรือข้อความปลอมที่แฝงตัวเป็นผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการ ในอีเมลหรือข้อความเหล่านี้อาจมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ปลอมหรือไฟล์แนบที่เป็นอันตราย เมื่อผู้ใช้คลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบเหล่านี้ พวกเขาอาจตกเป็นเหยื่อของการโจมตีแบบ Phishing และถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงิน.วิธีป้องกันตนเองจากภัยคุกคามทางไซเบอร์เมื่อมีความจำเป็นต้องค้นหาซอฟต์แวร์บน Google และเพื่อป้องกันตนเองจากภัยคุกคามทางไซเบอร์เมื่อค้นหาซอฟต์แวร์บน Google ผู้ใช้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้.
ใช้ความระมัดระวังในการคลิกลิงก์: อย่าคลิกลิงก์ในอีเมลหรือข้อความที่น่าสงสัย ให้ตรวจสอบลิงก์อย่างรอบคอบก่อนที่จะคลิก และอย่าคลิกลิงก์ที่ดูไม่น่าเชื่อถือหรือมาจากผู้ส่งที่ไม่รู้จัก.
ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเท่านั้น: อย่าดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือเว็บไซต์ที่ไม่ใช่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์.
ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและมัลแวร์ที่ทันสมัย: ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและมัลแวร์ที่ทันสมัยเพื่อตรวจจับและบล็อกมัลแวร์และไวรัสที่อาจแฝงมากับซอฟต์แวร์ที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต.
…
ตอนนนี้ใครก็พูดถึง AI แต่สิ่งหนึ่งที่เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน มีการ Disrupt อย่างรุนแรง หรือ การออกฏหมาย/ระเบียบใหม่ ๆ ก็จะต้องมีเรื่อง Security เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน.
จึงเป็นที่มาที่หน่วยงานระดับสากลอย่าง ISO ได้ออกมาตรฐาน ISO/IEC 42001:2023 มาตรฐานระบบการจัดการ AI โดยมีการให้คำแนะนำในการนำเรื่องการพิจารณาทางจริยธรรม ความโปร่งใส และการเรียนรู้ต่อเนื่อง .
มาตรฐานนี้กำหนดให้มีข้อกำหนดสำหรับการจัดตั้ง การดำเนินการ การบำรุงรักษา และการปรับปรุงระบบการจัดการปัญญาประดิษฐ์ (AIMS) ภายในองค์กร มาตรฐานนี้ถูกออกแบบมาสำหรับหน่วยงานที่ให้บริการ หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์ หรือ บริการที่ใช้ AI เพื่อรับประกันการพัฒนาและใช้งานระบบ AI อย่างมีความรับผิดชอบ.
มาตรฐานนี้จะช่วยให้องค์กรสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีประโยชน์ภาพรวมดังนี้.
การใช้ระบบ AIMS ที่มีประสิทธิภาพสามารถจัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ AI ได้ทันท่วงที.
ใช้ในการสร้างกรอบการทำงานที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาและใช้งาน AI ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นนวัตกรรมภายในองค์กรได้เป็นอ่างดี.
เป็นการสร้างความแตกต่างในตลาด การได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 42001:2023 นั้นจะช่วยให้องค์กรมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังปฏิวัติทุกอุตสาหกรรม รวมถึงการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้วยความสามารถอันทรงพลังของ AI ผู้โจมตีจึงใช้วิธีการที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ และประสบความสำเร็จในการโจมตี ในปี 2024 คาดว่าภัยคุกคามอีเมลที่ใช้ AI จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กร และบุคคลทั่วไปต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือ.
ภัยคุกคามอีเมลที่ใช้ AI คืออะไร. ภัยคุกคามอีเมลที่ใช้ AI คือการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตี ผู้โจมตีใช้ AI เพื่อสร้างอีเมลฟิชชิงที่ดูเหมือนมาจากแหล่งที่ถูกต้อง อีเมลเหล่านี้อาจมีเนื้อหาที่ปรับเปลี่ยนตามข้อมูลเฉพาะเจาะจงของเหยื่อ ทำให้ยากต่อการตรวจจับว่าเป็นการหลอกลวง.นอกจากนี้ AI ยังสามารถใช้เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการสื่อสารทางอีเมลของบุคคลหรือองค์กร เพื่อสร้างอีเมลที่กำหนดเป้าหมายอย่างแม่นยำมากขึ้น ซึ่งอาจหลอกล่อให้เหยื่อคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบที่เป็นอันตราย.
ภัยคุกคามอีเมลที่ใช้ AI ที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่:. - การโจมตีแบบ Phishing ขั้นสูง: อีเมลฟิชชิงที่ใช้ AI จะเลียนแบบอีเมลจากแหล่งที่ถูกต้อง เช่น ธนาคาร บริษัท หรือเพื่อนร่วมงาน อีเมลเหล่านี้อาจมีการสะกดคำและไวยากรณ์ที่ถูกต้อง และอาจมีการออกแบบที่ดูน่าเชื่อถือ. - อีเมลสแปมที่กำหนดเป้าหมาย: ผู้โจมตีใช้ AI เพื่อสร้างอีเมลสแปมที่กำหนดเป้าหมายไปยังบุคคลหรือองค์กรเฉพาะ อีเมลเหล่านี้อาจมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจหรือธุรกิจของเหยื่อ.…
ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในระบบการศึกษา โรงเรียนกำลังเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ปี 2024 คาดว่าจะเป็นปีที่วิกฤตนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น บทความนี้จะเจาะลึกถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่โรงเรียนอาจเผชิญในปี 2024 และแนะนำวิธีรับมือเพื่อปกป้องข้อมูลและความปลอดภัยของนักเรียน.
ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พบบ่อยที่สุดในโรงเรียน.
- การโจมตีแบบ Phishing: ผู้โจมตีส่งอีเมลหรือข้อความปลอมเพื่อหลอกล่อนักเรียนและเจ้าหน้าที่ให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น รหัสผ่าน. - มัลแวร์:- ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายซึ่งติดตั้งโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจขโมยข้อมูล ทำลายไฟล์ หรือแม้แต่ควบคุมคอมพิวเตอร์. - การโจมตีแบบ Ransomware: มัลแวร์ที่เข้ารหัสไฟล์ในคอมพิวเตอร์และเรียกค่าไถ่เพื่อแลกกับการถอดรหัสไฟล์. - การโจมตีแบบ DDoS: ผู้โจมตีส่งคำขอจำนวนมากไปยังเว็บไซต์หรือเครือข่าย ทำให้เว็บไซต์หรือเครือข่ายดังกล่าวล่ม. - การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล: ผู้โจมตีอาจเข้าถึงฐานข้อมูลของโรงเรียนและขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียน เช่น ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลทางการเงิน
ผลกระทบของการโจมตีทางไซเบอร์ในโรงเรียน.
การโจมตีทางไซเบอร์อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโรงเรียน ได้แก่. - การสูญเสียข้อมูลการศึกษาที่มีค่า. - การหยุดชะงักของการเรียนการสอน. - การสูญเสียทางการเงิน. - ความเสียหายต่อชื่อเสียงของโรงเรียน. - ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของนักเรียน.
วิธีรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในโรงเรียน.
โรงเรียนควรดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ ได้แก่. -…
การโจมตีทางไซเบอร์ประเภท Phishing เป็นภัยคุกคามที่พบบ่อยที่สุดประเภทหนึ่ง คาดว่าการโจมตีประเภทนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในปี 2024 นี้
การโจมตีแบบ Phishing เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พบบ่อยที่สุดประเภทหนึ่ง ซึ่งคาดว่าในปีนี้การโจมตีประเภทนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
การโจมตีแบบ Business Email Compromise (BEC) เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีรูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ที่อาชญากรไซเบอร์จะปลอมตัวเป็นหัวหน้าแผนก
ในปี 2024 ภัยคุกคามด้าน Cybersecurity จะยังคงมีความซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้น บริษัทและองค์กรต่างๆ จำเป็นต้องตระหนักถึงภัยคุกคามเหล่านี้และพร้อมที่จะป้องกัน
Ransomware และการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีวิวัฒนาการที่เลวร้ายมากขึ้น และเหตุการณ์ต่างๆ จะเกิดบ่อยขึ้นในไม่ช้าไม่นานนี้.
การโจมตีแบบ Zero-Day เป็นหนึ่งในภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ร้ายแรงที่สุด เนื่องจากเป็นการโจมตีที่ใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก
