“Digital Fraud” หรือ “การปลอมแปลงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” เป็นคำที่ใช้ในบริบทของการทำผิดกฎหมายหรือการกระทำที่ไม่สุจริตที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัล โดยทั่วไปมักหมายถึง การใช้เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเพื่อทำความเสียหายหรือปกปิดการกระทำที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงการหลอกลวง การโจมตีคอมพิวเตอร์หรือระบบข้อมูล การปลอมแปลงข้อมูล การหลอกลวงในการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต และผลงานการขายซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย การละเมิดลิขสิทธิ์ และการกระทำผิดกฎหมายทางอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ.

ตัวอย่างของการปลอมแปลงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่:.

1. การหลอกลวงออนไลน์ (Online Scams): การใช้เว็บไซต์หรืออีเมล์ปลอมแปลงเพื่อหลอกลวงผู้คนให้ทำสิ่งที่ไม่ควร เช่น การโอนเงิน, การรับสินค้าที่ไม่มีจริง, หรือการปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์ของธนาคารเพื่อขอข้อมูลส่วนตัว..

2. การแฮกคอมพิวเตอร์ (Computer Hacking): การเข้าถึงคอมพิวเตอร์หรือระบบข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำความเสียหาย..

3. การปลอมแปลงข้อมูล (Data Forgery): การเปลี่ยนแปลงหรือปลอมแปลงข้อมูลเพื่อให้มีลักษณะที่เท่าเดิมแต่มีเนื้อหาที่เท็จ..

4. การโจมตีด้วยไวรัสและมัลแวร์ (Virus and Malware Attacks): การส่งไวรัสหรือมัลแวร์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นเพื่อทำความเสียหายหรือขโมยข้อมูล..

5. การปลอมแปลงการทำธุรกรรม (Transaction Fraud): การใช้ข้อมูลที่ปลอมแปลงเพื่อทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ตที่ไม่ถูกต้อง เช่น การใช้บัตรเครดิตปลอม..

การป้องกันการปลอมแปลงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเริ่มขึ้นจากการเลือกใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัย, การตรวจสอบเว็บไซต์และอีเมล์ที่มีความเชื่อถือ, การไม่คลิกลิงค์ที่ไม่น่าเชื่อถือ, และการอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบประจำ. การความรู้และการระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการปลอมแปลงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพในโลกออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว