𝟭. 𝗟𝗼𝗰𝗸-𝘀𝗰𝗿𝗲𝗲𝗻 𝗿𝗮𝗻𝘀𝗼𝗺𝘄𝗮𝗿𝗲 : แรนซัมแวร์แบบล็อกหน้าจอเป็นมัลแวร์ประเภทหนึ่งที่ล็อกหน้าจอของเหยื่อ และเรียกค่าไถ่เพื่อกู้คืนการเข้าถึงอุปกรณ์ เหยื่อไม่สามารถใช้อุปกรณ์ของตนได้จนกว่าจะจ่ายค่าไถ่.

𝟮. 𝗖𝗿𝘆𝗽𝘁𝗼-𝗿𝗮𝗻𝘀𝗼𝗺𝘄𝗮𝗿𝗲 : Crypto-ransomware เป็นมัลแวร์ประเภทหนึ่งที่เข้ารหัสไฟล์ของเหยื่อ และเรียกร้องค่าไถ่เพื่อกู้คืนการเข้าถึงไฟล์ที่เข้ารหัส ไฟล์ที่เข้ารหัสจะไม่สามารถอ่านได้หากไม่มีคีย์เข้ารหัส ซึ่งมอบให้กับเหยื่อหลังจากจ่ายค่าไถ่แล้วเท่านั้น.

𝟯. 𝗠𝗼𝗯𝗶𝗹𝗲 𝗿𝗮𝗻𝘀𝗼𝗺𝘄𝗮𝗿𝗲 : แรนซัมแวร์บนมือถือเป็นมัลแวร์ประเภทหนึ่งที่กำหนดเป้าหมายไปยังอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต มันสามารถล็อคอุปกรณ์ หรือเข้ารหัสไฟล์ของเหยื่อเพื่อเรียกค่าไถ่ในการกู้คืนการเข้าถึง.

𝟰. 𝗠𝗕𝗥 𝗿𝗮𝗻𝘀𝗼𝗺𝘄𝗮𝗿𝗲 : แรนซัมแวร์ MBR เป็นมัลแวร์ประเภทหนึ่งที่โจมตีใน Master Boot Record ของอุปกรณ์ของเหยื่อ ทำให้ไม่สามารถบูตอุปกรณ์ได้ ผู้โจมตีต้องจ่ายเงินค่าไถ่เพื่อกู้คืนการเข้าถึงอุปกรณ์.

𝟱. 𝗥𝗮𝗮𝗦 (𝗥𝗮𝗻𝘀𝗼𝗺𝘄𝗮𝗿𝗲-𝗮𝘀-𝗮-𝗦𝗲𝗿𝘃𝗶𝗰𝗲) : RaaS เป็นแรนซัมแวร์ประเภทหนึ่งที่เสนอให้เป็นบริการแก่อาชญากรไซเบอร์รายอื่น ซึ่งใช้แรนซัมแวร์เพื่อดำเนินการโจมตีและเรียกเก็บเงินค่าไถ่.

𝟲. 𝗗𝗗𝗼𝗦 𝗿𝗮𝗻𝘀𝗼𝗺𝘄𝗮𝗿𝗲 : แรนซัมแวร์ DDoS เป็นมัลแวร์ประเภทหนึ่งที่ขู่ด้วยการโจมตีแบบ Distributed Denial of Service (DDoS) บนเว็บไซต์ของเหยื่อ จะหยุดกระทำก็ต่อเมื่อมีการจ่ายค่าไถ่ให้กับผู้โจมตีแล้ว.

ไม่ว่าจะเป็นแรนซัมแวร์ประเภทใดก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องระวัง และดำเนินการป้องกัน ไม่ว่าจะเป็น อัปเดตซอฟต์แวร์แ ละระบบเป็นประจำ ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ และฝึกนิสัยในการท่องอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย