รู้หรือไม่ ? เมื่อจำนวนอุปกรณ์ IoT ในบ้าน และธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ก็ยิ่งเกิดช่องโหว่ในการโจมตีทางไซเบอร์สูงขึ้นไปด้วย

ในปัจจุบันเริ่มมีการพูดถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับช่องโหว่ของ IoT เนื่องจากจำนวนอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในบ้านและธุรกิจ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เกิดการโจมตีใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงความปลอดภัยของ IoT โดยประเด็นสำคัญที่ควรป้องกันมีดังนี้.

1. Expanding Attack Surfaces การขยายพื้นผิวการโจมตี : อุปกรณ์ IoT ตั้งแต่เทอร์โมสแตทอัจฉริยะไปจนถึงเซ็นเซอร์อุตสาหกรรม กำลังถูกรวมเข้ากับสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย อุปกรณ์เหล่านี้มักจะขาดคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ทำให้เป็นเป้าหมายที่น่าดึงดูดสำหรับการโจมตีทางไซเบอร์.

2. Security Emphasis เน้นความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ : ความพยายามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ควรให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์ IoT ด้วยเช่นกัน เพื่อลดช่องโหว่ ซึ่งรวมถึงมาตรการเชิงรุกในการออกแบบอุปกรณ์ และแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยหลังการใช้งาน.

3. Manufacturers’ Responsibility ความรับผิดชอบของผู้ผลิต : ผู้ผลิตจะต้องมีบทบาทเชิงรุกเพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ IoT ของตนได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการใช้วิธีการเข้ารหัส การรับรองความถูกต้องที่ปลอดภัย และการอัปเดตความปลอดภัยเป็นประจำ.

4. User Education การให้ความรู้แก่ผู้ใช้ : ความพยายามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ควรเน้นการให้ความรู้แก่ผู้ใช้เกี่ยวกับความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์ IoT เช่น การเปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้น และการอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นประจำ.

5. Network Security ความปลอดภัยเครือข่าย : การเสริมสร้างความปลอดภัยเครือข่ายเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องอุปกรณ์ IoT สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการใช้ระบบตรวจจับการบุกรุก ไฟร์วอลล์ และการแบ่งส่วนเพื่อแยกอุปกรณ์ IoT ออกจากระบบที่สำคัญ.

6. Regulatory Frameworks กรอบการกำกับดูแล : รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลควรแนะนำหรือปรับแต่งกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของ IoT โดยต้องกระตุ้นให้ผู้ผลิตปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย.

โดยรวมแล้ว ความแพร่หลายที่เพิ่มขึ้นของอุปกรณ์ IoT ในอนาคตจะช่วยผลักดันให้แต่ละองค์กรมีการมุ่งเน้นไปที่การรักษาความปลอดภัยอุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ควรได้รับการทำงานร่วมกันของผู้ผลิต ผู้ใช้ และชุมชนความปลอดภัยทางไซเบอร์ จะช่วยสร้างความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดการภูมิทัศน์ด้านความปลอดภัย IoT ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา